การเลือกความหนาของกระดาษซับลิเมชั่นมีผลอย่างมากต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของงานพิมพ์ การพิมพ์แบบซับลิเมชั่นเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเครื่องพิมพ์ หมึกพิมพ์ และกระดาษซับลิเมชั่น กระดาษซับลิเมชั่นไม่ใช่เพียงตัวกลางที่รองรับหมึกเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดสีสันและรายละเอียดของงานออกไปยังพื้นผิววัสดุที่ต้องการ ซึ่งการเลือกความหนาของกระดาษมีผลโดยตรงต่อ
การไหลของหมึก การซึมซับ และการถ่ายโอนหมึกไปยังวัสดุเป้าหมายกระดาษซับลิเมชั่นที่มีความหนามากมักจะมีความสามารถในการดูดซับหมึกได้ดี และช่วยลดโอกาสที่หมึกจะซึมทะลุผ่านกระดาษ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในการพิมพ์งานที่มีความละเอียดสูงหรือต้องการความเข้มข้นของสี นอกจากนี้ กระดาษซับลิเมชั่น ที่หนายังช่วยลดปัญหาเรื่องกระดาษบิดงอเมื่อเจอกับความร้อนระหว่างการรีด เพราะโครงสร้างของกระดาษหนามีความแข็งแรงกว่า
ความแตกต่างระหว่างกระดาษซับลิเมชั่นแบบเร็วแห้งกับแบบดูดซึมสูง
จึงสามารถรักษารูปร่างและความเรียบของงานได้ดีกว่ากระดาษบางในทางตรงกันข้าม กระดาษซับลิเมชั่นที่บางเกินไปอาจนำมาซึ่งปัญหาหลายอย่าง เช่น หมึกซึมทะลุ ทำให้เกิดคราบเปื้อนที่เครื่องรีด หรือวัสดุพิมพ์มีสีไม่สม่ำเสมอ เพราะหมึกไม่สามารถควบคุมได้ดีในระหว่างกระบวนการถ่ายโอน อีกทั้งกระดาษบางยังมีแนวโน้มที่จะย่นหรือบิดตัวจากความชื้นและความร้อน ส่งผลให้การวางตำแหน่งลายพิมพ์บนวัสดุไม่ตรงตามต้องการ กระดาษซับลิเมชั่น บางครั้งอาจทำให้ภาพพิมพ์เบี้ยวหรือเกิดเงา (ghosting) ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ยากจะแก้ไขในภายหลังอย่างไรก็ตาม การเลือกความหนา
ของกระดาษซับลิเมชั่น ก็ต้องสอดคล้องกับประเภทของงานและเครื่องพิมพ์ที่ใช้ ถ้าใช้กระดาษที่หนาเกินไปกับเครื่องพิมพ์ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกระดาษหนา อาจเกิดปัญหาเรื่องการป้อนกระดาษ เช่น กระดาษติด หรือระบบการป้อนกระดาษไม่สามารถทำงานได้ราบรื่น ส่งผลให้กระบวนการผลิตหยุดชะงัก หรือทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบทั้งในแง่ของสเปกเครื่องพิมพ์ และวัสดุที่ต้องการพิมพ์ เพื่อเลือกความหนาของกระดาษให้เหมาะสม
ลดต้นทุนการผลิตด้วยการเลือกใช้กระดาษซับลิเมชั่นอย่างชาญฉลาด
อีกหนึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความหนาของกระดาษคือเรื่องของต้นทุน กระดาษที่หนากว่ามักมีราคาสูงกว่ากระดาษบาง เพราะมีการใช้เนื้อเยื่อกระดาษมากขึ้น รวมทั้งกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันกว่า กระดาษซับลิเมชั่น ผู้ประกอบการต้องชั่งน้ำหนักระหว่างคุณภาพของงานและต้นทุนการผลิต ถ้างานต้องการคุณภาพสูงมาก เช่น การพิมพ์ผ้าสำหรับเสื้อกีฬา เสื้อแฟชั่น หรือของตกแต่งบ้านที่ต้องการรายละเอียดคมชัด และสีสันสดใส ก็อาจคุ้มค่าที่จะลงทุนเลือกใช้กระดาษซับลิเมชั่น
ที่หนากว่า กระดาษซับลิเมชั่น ม้วนแต่ถ้าเป็นงานพิมพ์ปริมาณมาก ที่ไม่ได้เน้นความละเอียดสูงมากนัก เช่น ธงผ้า ป้ายโฆษณา หรือผ้าพันคอโปรโมชัน อาจเลือกกระดาษที่บางลงเล็กน้อยเพื่อลดต้นทุนการทำงานกับซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดกระดาษที่เหมาะสมกับลักษณะงานของเราได้อย่างตรงจุด จะช่วยให้การเลือกกระดาษซับลิเมชั่นกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการมองแค่ราคาเป็นหลัก